การติดต่อสื่อสาร (Communication)
การติดต่อสื่อสาร
(Communication)
ความหมายของการติดต่อสื่อสาร
ศัพท์ “Communication” แปลเป็นภาษาไทย ว่า “การติดต่อสื่อสาร” หรือ “การติดต่อ” มาจากภาษาละตีนว่า “COMMUNIS” หมายถึง ด้วยกันหรือคล้ายกัน โดยเหตุนั้นจุดมุ่งหมายของการติดต่อสื่อสาร คือ กิจกรรมที่มุ่งสร้างความด้วยกัน หรือความคล้ายกันให้เกิดขึ้นระหว่างบุคคลที่เกี่ยวพัน ถ้าเกิดมีความรู้และความเข้าใจความหมายที่ตรงกัน พูดอีกอย่างหนึ่ง
การติดต่อสื่อสาร เป็นความหมายของผู้คนที่อยากได้ถ่ายทอด (Transmit) เพื่อเปลี่ยน (Share) ข้อมูล (Information) ความนึกคิด (Idea) รวมทั้งทัศนคติ (Attitudes) ระหว่างกันซึ่งเป็นการ
การติดต่อสื่อสาร เป็นการส่งสาร ข้อมูลแนวคิด ความรู้สึก ตลอดจนทัศนคติจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง โดยการพูด เขียน และก็เครื่องหมายต่างๆ
สรุป การติดต่อสื่อสาร คือ กระบวนการถ่ายทอดข้อมูลจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง หรือ จากกรุ๊ปหนึ่งไปยังอีกกรุ๊ปหนึ่ง ซึ่งการถ่ายทอดบางทีอาจใช้ภาษาพูด ภาษาสุภาพ หรือเครื่องหมายอื่นๆซึ่งสามารถทำให้รู้เรื่องข้อมูลได้ตรงกัน
จุดสำคัญ
การติดต่อสื่อสารมีความหมายรวมทั้งคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการดูแลงานของประธานโรงเรียน ดังต่อไปนี้
1. ทำให้เจ้าหน้าที่รู้หลักการ หน้าที่ วิสัยทัศน์ จุดหมายและก็มาตรฐานของโรงเรียน เพราะเหตุว่าประธานจำต้องถ่ายทอดสิ่งกลุ่มนี้ให้เจ้าหน้าที่รู้เรื่อง เพื่อการจัดการประสบผลสำเร็จ
2. ทำให้เจ้าหน้าที่รู้หน้าที่แล้วก็หน้าที่ของตัวเอง โดยประธานจำเป็นที่จะต้องมอบหมายงานให้กระจ่าง
3. ประธานจึงควรสอนและก็ชี้แนะแนวทางการทำงานให้เจ้าหน้าที่แต่ละคนรู้เรื่องการกระทำงานในหน้าที่ของตัวเอง
4. ช่วยสร้างเสริมขวัญแล้วก็แรงใจสำหรับการปฏิบัติการ โดยการยกย่องชมเชย เผยแพร่ผลของการปฏิบัติการ
5 ช่วยทำให้ประธานได้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับการกระทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งยังในส่วนที่เจริญก้าวหน้ารวมทั้งคือปัญหา ทำให้เอามาเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานของตนได้
6. ช่วยทำให้กำเนิดความร่วมแรงร่วมมือพร้อมใจกับชุมชนสำหรับการจัดแจงเรียน
7. สร้างบรรยากาศที่การอบอุ่น เป็นมิตร และก็คุ้นเคย กำเนิดความร่วมแรงร่วมใจพร้อมใจสำหรับการดำเนินการ
8. ทำให้พนักงานในระดับเดียวกันได้แลกข้อคิดเห็นสำหรับการปฏิบัติงานของแต่ละคนหรือแต่ละข้าง ทำให้รู้การทำงานรวมทั้งปัญหาของกันและกัน
9. ทำให้พนักงานยึดวัตถุประสงค์ของโรงเรียนเป็นหลักสำหรับในการดำเนินงาน
10. ช่วยเหลือแนวทางการทำงานเป็นกลุ่ม
11 ออมทรัพยากรสำหรับในการบริหาร
แนวคิดที่เกี่ยวเนื่องกับการติดต่อสื่อสาร
การติดต่อสื่อสารของผู้คนเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นข้างในสิ่งแวดล้อมหรือเหตุการณ์ (Contexts)อย่างใดอย่างหนึ่ง และก็เหตุการณ์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็ชอบทรงอิทธิพลต่อต้นแบบและก็ขั้นตอนการติดต่อและทำการสื่อสารนั้นๆด้วย การติดต่อสื่อสารของผู้คนได้ผลสืบไปมาจากสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับแนวคิดใดแนวความคิดหนึ่งหรือหลายแนวความคิดประกอบกันดังนี้
1. แนวคิดทางด้านจิตวิทยา (Psychological Theory) การกระทำการติดต่อสื่อสารเป็น คุณสมบัติเฉพาะของอวัยวะต่างๆของแต่ละบุคคล เกิดขึ้นระหว่างในเวลาที่บุคคลเปิดรับข่าวกับในเวลาที่บุคคลนั้นตอบรับข่าวนั้น
แนวคิดสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการติดต่อสื่อสารของผู้คนที่สำคัญอย่างเช่น แนวความคิดเกี่ยวกับสิ่งกระตุ้น การโต้ตอบ แนวความคิดเกี่ยวกับแรงผลักดัน (motivation) โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องการทางร่างกายของผู้คน (physical needs) แล้วก็สิ่งที่จำเป็นทางจิตใจ (psychological needs) อันเป็นเบื้องต้นสำคัญของการติดต่อสื่อสารเพื่อชักชวน (persuasion) ในกรรมวิธีการติดต่อระหว่างบุคคล
2. แนวความคิดด้านสังคม (Socialogical Theory) แนวความคิดนี้มีพื้นฐานมาจากแนวความคิดและก็การศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยเกี่ยวกับกรรมวิธีความสัมพันธ์ระหว่างบรรดาเครื่องหมายต่างๆ(Symbolic interaction) ในสังคม แนวความคิดนี้นับว่า การกระทำต่างๆของผู้คนที่เกิดขึ้นในสังคมมีเหตุมาจากการมีปฏิกิริยาระหว่างกันและกันของการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์
วิลเลียม ยกทซ์ (William Schutz, 1966 “ 102 - 105) นักจิตวิทยาชี้แจงว่าที่มนุษย์ควรจะมีการติดต่อสื่อสารนั้นก็เพื่อทำให้ตามที่ต้องการด้านสังคมที่สำคัญ 3 ประการ เป็น
1. การเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของสังคม (inclusion)
2. ความจำเป็นการควบคุม (control)
3. สิ่งที่ต้องการความรัก (affection)
ทัศนะมนุษยสัมพันธ์
การติดต่อสื่อสาร : การโต้ตอบซึ่งกันและกัน
Mary Parker Follett ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารไว้ 2 แนวความคิด เป็น
1. การโต้ตอบซึ่งกันและกัน Follett มั่นใจว่าในความสัมพันธ์ส่วนบุคคลจะไม่เกิดปฏิกิริยา
สนองตอบต่อสิ่งกระตุ้นแบบเริ่มแรก แต่ว่าคนมีปฏิกิริยาระหว่างกัน (interaction) มีผลต่อกันและก็เห็นด้วยเกี่ยวกับวงของสิ่งถอยกลับ (feedback loop) ของการติดต่อระหว่างกัน
2. วัตถุประสงค์ของการรวมตัวกัน บางเวลาเรียกว่า “การติดต่อประสานงาน” มีการจัดแจงให้คนภายใน
หน่วยงานบรรลุความประสงค์ด้วยกัน
Elton Mayo และก็ภาควิชาได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์คนงาน โดยมีเป้าประสงค์เพื่อรู้ความเห็นของคนงานในเรื่องงานที่ปฏิบัติอยู่ ความข้องเกี่ยวของหัวหน้าที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา Mayo ได้ให้หนทางที่คนสัมภาษณ์จะต้องประพฤติตามดังต่อไปนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเทคนิดการฟังที่มีประสิทธิผล
กรัม มุ่งความพอใจไปยังบุคคลที่ถูกสัมภาษณ์
ข. ฟังเพียงอย่างเดียว ห้ามพูด
ค. ห้ามปะทะคารมหรือให้คำปรึกษา
ง. ฟังในสิ่งที่ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้บอกไหมปรารถนาเอ่ยถึง หรือเปล่าสามารถบอก
จังหวัด สรุปสิ่งที่ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้บอกรวมทั้งให้คำแนะนำ
ฉ. สิ่งที่บอกถือได้ว่าความลับ
วิธีการติดต่อและทำการสื่อสารของ Chester I. Barnard
Barnard เสนอวิธีการสื่อสารไว้ดังต่อไปนี้
กรัม ช่องทางสื่อสารควรจะประกาศให้ทราบอย่างเห็นได้ชัดและก็แน่ๆ
ข. อำนาจหน้าที่ปรากฏอยู่ในวิถีทางของการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการ
ค. ทางของการติดต่อสื่อสาร (line of communication) จำเป็นต้องสั้นและก็ตรงประเด็น
ง. ทางของการติดต่อสื่อสารที่บริบูรณ์จะถูกประยุกต์ใช้
จังหวัด คนที่มีความรู้ความเข้าใจจะเป็นศูนย์กลางของการติดต่อสื่อสารซึ่งยกตัวอย่างเช่น ข้าราชการ หัวหน้างาน
ฉ. เมื่อหน่วยงานกำลังปฏิบัติการ ไม่สมควรขัดขวงทางของการติดต่อสื่อสาร
วิธีการเล่าเรียนเชิงพฤติกรรมศาสตร์ของการติดต่อสื่อสาร
การเรียนเชิงพฤติกรรมศาสตร์ของการติดต่อสื่อสารมีลักษณะสำคัญหลายประการ เป็น
1. การกระทำทุกประเภทเป็นการติดต่อ
2. การติดต่อสื่อสารบางทีอาจจะใช้ความประพฤติอีกทั้งทางวัจนะ (verbal) หรือวัจนะ (onoverbal) ในขณะกระทำติดต่อและทำการสื่อสารทุกคราว
3. การติดต่อสื่อสารทุกหนมีรายละเอียดสารแล้วก็รายละเอียดสารจะกำหนดการกระทำความข้องเกี่ยวระหว่างแหล่งสารกับผู้รับสารด้วย
4. ความประพฤติปฏิบัติการติดต่อสื่อสารมีลักษณะเป็นแนวทางการ
5. ความประพฤติปฏิบัติการติดต่อสื่อสารมีลักษณะเป็นวงกลม (Circular)
6. ความประพฤติการติดต่อสื่อสารมีลักษณะสลับซับซ้อน (Complex)
7. การติดต่อสื่อสารมีลักษณะของความประพฤติปฏิบัติการเข้ารหัสสารและก็ถอดรหัสสาร(Decoding-Encoding Behavior)
8. ความประพฤติปฏิบัติการติดต่อสื่อสารมีลักษณะเป็นความสัมพันธ์ (Interaction)
9. การติดต่อสื่อสารเป็นความประพฤติปฏิบัติที่ไม่อาจจะปรับปรุงใหม่ (Irreversible) หรือซ้ำของเดิมได้ (unrepeatable)
แนวทางการติดต่อ
ร็อบบินส์รวมทั้งคูลตาร์ (Robbins and Coultar) ได้พูดถึงส่วนประกอบแนวทางการติดต่อไว้ 7 ส่วนประกอบ อาทิเช่น
1. ผู้บอกข่าวสาร (sender) บางทีอาจเป็นอีกคนหนึ่งหรือกรุ๊ปที่อยากติดต่อสื่อสารไปยังคนอื่นๆ ควรมีจุดมุ่งหมายแจ่มกระจ่างว่าตนจะติดต่อสื่อสารอะไร ไปให้คนใดกัน เพื่อจุดหมายใด และก็ใช้ช่องทางสำหรับการติดต่อสื่อสารแบบใด
2. ข้อมูล (message) ส่งที่ผู้ส่งสาส์นสารอยากได้ถ่ายทอดให้คนรับข้อมูลรับทราบ
3. การเข้ารหัส (encoding) หรือการตีความของข่าวที่จะส่ง ผู้ส่งจำเป็นที่จะต้องถอดความคิดของตนเองให้เป็นเครื่องหมายที่สื่อความหมายแล้วก็ให้คนรับรู้เรื่อง บางทีอาจเป็นการกล่าว การเขียน หรืออันอื่น
4. วิถีทางส่งสาร (channel) ผู้ส่งจำเป็นต้องเลือกหนทางให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายรวมทั้งประเภทของข่าว
5. การตีความหรือการถอดรหัส (decoding) ผู้รับสารจำต้องแปลความของข้อมูลที่ส่งมา โดยอาศัยวิชาความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญและก็ความเกี่ยวข้องที่มีกับผู้ส่งสารด้วย
6. คนรับข่าว (receiver) เป็นต้นว่า คนฟัง คนอ่าน หรือคนรับสัญญาณต่างๆ
7. การส่งข้อมูลป้อนกลับ (feedback) สิ่งที่ต้องระวังสำหรับเพื่อการติดต่อเป็นความรู้ความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้รับสารรวมทั้งผู้ส่งสาร เพื่อแก้ใขให้รู้เรื่องตรงกันก็โดยอาศัยการให้ข้อมูลป้อนกลับของผู้รับสาร
กระบวนการสื่อสาร ย้ำส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ประการ
ผู้ส่งสาร สาร รวมทั้งผู้รับสาร
การติดต่อสื่อสารเป็นกรรมวิธีการ หมายความว่าการติดต่อสื่อสารมีลักษณะเปลี่ยนและก็ตลอดตลอดระยะเวลา ส่วนประกอบแต่ละส่วนประกอบของการติดต่อสื่อสารมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งมีผลต่อซึ่งกันและกัน สำหรับในการพินิจพิจารณากระบวนการสื่อสารมีแบบจำลองการติดต่อสื่อสารต่างชี้แจงการติดต่อสื่อสารดังนี้
1. The Aristotelian Model
คนฟัง
คำบอกเล่า
ผู้พูด
2. Lasswell model
Lasswell model เป็นนักวิชารัฐศาสตร์ที่ผู้พอใจเล่าเรียนการติดต่อสื่อสารจากโฆษณาชวนเชื่อ Lasswell ได้ชี้แจง ได้ชี้แจงกระบวน การติดต่อสื่อสารในลักษณะที่เป็น Verbal Modelโดยการให้ตอบปัญหาซึ่งเป็นส่วนประกอบการติดต่อสื่อสารเรื่องสั้นๆให้ได้ เป็น
คนใด (Who)
กล่าวอะไร (Says what)
ผ่านสื่อใด (In which channel)
ถึงผู้ใดกัน (To whom)
เป็นผลอะไร (With what effect ?)
3. Claude E. Shannon and Warren Weaver Model
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น